ข่าวฟุตบอล

เปิด 7 สถิติ สุดช็อก หลังแมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาแพ้ ลิเวอร์พูล ขาดลอยถึง 7-0 ที่ แอนฟิลด์

7-0 สกอร์ขาดลอยที่สุดในศึกแดงเดือดในรอบ 128 ปี 

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด คืนวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งคว้าโทรฟี่คาราบาวคัพมาครอง ยกทัพเยือน  “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ถึงแอนฟิลด์ แต่สุดท้ายแพ้ยับขาดลอยถึง 0 – 7 ชนะ เป็นสกอร์ขาดลอยที่สุดในศึกแดงเดือดในรอบ 128 ปี 

ก่อนเกมนี้ต้องบอกว่าปีศาจแรกมั่นใจมาก ๆ เพราะเพิ่งคว้าแชมป์คาราบาวมาได้ และมาร์คัส แรชฟอร์ด ยอดกองหน้ากดไปแล้วถึง 10 ประตูในลีค แต่ไม่หน้าเชื่อพอเกมส์เริ่มเป็นลิเวอร์พูลที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม 

7 สถิติ ศึกแดงเดือดในครั้งนี้ 

1.การแพ้ที่ยับเยินที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด?
การแพ้ที่ยับเยินที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด คือการแพ้ด้วยสกอร์ 7-0 ซึ่งพวกเขาเจอมาถึง 4 ครั้ง ให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เมื่อวันที่ 10 เมษายน 1926, แอสตัน วิลล่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 1930, วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 1931 และล่าสุดกับ ลิเวอร์พูล ในวันที่ 5 มีนาคม 2023

2.เป็นแดงเดือดที่เละเทะที่สุด ด้วยผลต่างถึง 7 ลูก ! คือก่อนหน้านี้เคยแพ้-ชนะห่างกันสูงสุด 6 ลูก ดังนี้นัดนี้คือแดงเดือดที่ยิ่งห่างกันเยอะสุดถึง 7 ลุก 

3.แดงเดือดที่มีนักเตะ 3 คน ที่ยิงได้ถึง 2 ลูก ซึ่งได้แก่ ดาร์วิน นูนเญซ ,โคดี้ กัคโป และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งในประวัติศาสตร์ของแมนยู ไม่เคยโดนนักเตะยิง2ลูกถึง3คนมาก่อน นี่คือครั้งแรกของปีศาจแดง 

4.โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นนักเตะที่ยิงได้มากที่สุด ของหงส์แดง ในพรีเมียร์ลีก ที่จำนวน 129 ลูก 

5. นี่คือนัดที่ 5 ของลิเวอร์พูล ที่ไม่เสียประตูในพรีเมียร์ลีก แข่งไป 5 นัด ชนะ4 เสมอ 1 เสีย 0 ประตู 

6. แมนยู แพ้คู่แข่งเกิน4 ประตู มาแล้ว 8 นัดด้วยกัน 

7. แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงไม่ได้อีกแล้ว ! โดยนักเตะคนสุดท้ายของแมนยู ที่สามารถยิงได้ใน แอนฟิลด์ คือ เจสซี่ ลินการ์ด นับตั้งแต่ ธันวาคม ปี 2018 

7-0 สกอร์ขาดลอยที่สุดในศึกแดงเดือดในรอบ 128 ปี 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3): อลีสซง เบ็คเกอร์,เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์,แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (สเตฟาน บายเซติช น.78),ฟาบินโญ่ (เจมส์ มิลเนอร์ น.79),ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (เคอร์ติส โจนส์ น.86),โมฮาเหม็ด ซาลาห์,โคดี้ กัคโป (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.78),ดาร์วิน นูนเญซ (ดีโอโก้ โชต้า น.79)

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1): ดาบิด เด เคอา,ดีโอโก้ ดาโลต์,ราฟาแอล วาราน,ลิซานโดร มาร์ติเนซ (ไทเรลล์ มาลาเซีย น.77),ลุค ชอว์,กาเซมีโร่ (มาร์เชล ซาบิตเซอร์ น.77),เฟร็ด (สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ น.59),อันโตนี่,บรูโน่ แฟร์นันด์ส,มาร์คัส แรชฟอร์ด (แอนโทนี่ย์ อีแลงก้า น.86),เวาท์ เว็กฮอร์สท์ (อเลฮานโดร การ์นาโช่ น.59)